ฺBSports อุปกรณ์สร้างกล้ามเนื้อ ลู่วิ่งระบบสายพานแบบไม่ใช้ไฟฟ้า รุ่น IGS0041(สีดำ)

ลู่วิ่งระบบสายพานแบบไม่ใช้ไฟฟ้า
เครื่องออกกำลังกายลู่วิ่งระบบสายพานแบบไม่ใช้ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์การการออกกำลังกายรุ่นใหม่ ฮิตติดเทรนเพื่อสุขภาพคนทันสมัย ช่วยบริหารกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น ช่วงแขน(ขณะจับบาร์ในระหว่างการออกกำลังกาย) กล้ามเนื้อส่วนล่าง ต้นขา สะโพก เพื่อรูปร่างที่ดี ได้สัดส่วน การวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากยิ่งขึ้น

เครื่องออกกำลังกายลู่วิ่งระบบสายพานแบบไม่ใช้ไฟฟ้า เป็นการออกกำลังกายที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงผู้สูงอายุ ใช้เดินหรือวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงหลอดเลือดขยายตัว ปอดและระบบหมุนเวียนของเลือด การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และไม่เพียงช่วยให้มีสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณมีรูปร่างร่างที่ดื สร้างความมั่นใจมากขึ้น

คุณสมบัติ

- ขนาดกระทัดรัด ใช้พื้นที่น้อย สามารถพับเก็บได้
- น้ำหนักเบา มีล้อติดตั้งในตัวเครื่อง สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
- น้ำหนักตัวเครื่อง 23 กก. สามารถรองรับน้ำหนักผู้เล่นได้ 100 กก.
- โครงสร้างผลิตจากเหล็ก แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน
- รับประกันสินค้า 1 ปี โดยผู้ผลิต(ผลิตในประเทศไทย)
- มีดิจิตอลแสองหน้าจอบอกถึง จำนวนที่วิ่ง(t),แคลลอรี่(cal),ระยะการวิ่ง(km),เวลา(tmr)

การวิ่ง ลู่วิ่งไฟฟ้า ให้ได้ผล ภายใน 30 นาที

-  ไม่ควรวิ่งลงปลายเท้า เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าแข้ง กล้ามเนื้อน่อง และเอ็นร้อยหวายอักเสบได้ง่าย เวลาวิ่งจึงควรใช้แรงจากกล้ามเนื้อโคนขา เนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อใหญ่ที่แข็งแรงและมีพลังมาก

-  ให้วิ่งยาว คือ วิ่งในระยะทางมาก ๆ จนกล้ามเนื้อปวดเมื่อย อาทิตย์ละครั้ง เนื่องจากกล้ามเนื้อจะใช้พลังงานจากไกลโคเจนในการออกกำลังกาย ซึ่งในกรณีที่เราใช้ไกลโคเจนหมดกล้ามเนื้อจะเริ่มสะสมใหม่ และในครั้งใหม่นี้จะสะสมไว้มากกว่าคราวที่ผ่านมา นั่นก็หมายความว่าคราวหน้าเราจะวิ่งได้ไกลขึ้น (คล้ายกับการเล่นกล้ามให้กล้ามเนื้อฉีกขาดเพื่อให้ร่างกายสร้างใหม่และใหญ่กว่าเดิม)

-  วิ่งเร็วสัปดาห์ละ 1 วัน  (วิ่งปกติสัปดาห์ละ2-3วัน) การวิ่งเร็ว จะทำให้ร่างกายทำงานหนัก ส่งผลให้ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้ต้องหันไปใช้วิธีให้พลังงานแบบไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งจะส่งผลให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจขยายใหญ่ขึ้น เป็นการป้องกันการเป็นโรคหัวใจแบบธรรมชาติบำบัดได้เป็นอย่างดี

-  เวลาวิ่งให้หายใจโดยใช้กะบังลม เพราะการหายใจที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้น คือการหายใจตื้นและสั้น ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการวิ่ง ดังนั้นจึงต้องใช้กะบังลมเข้าช่วยเพื่อให้หายใจลึกและยาวขึ้น เราสามารถฝึกหายใจโดยใช้กะบังลมได้โดยการนอนหงายเอาหนังสือวางบนหน้าท้อง ถ้าหนังสือขยับขึ้นตอนสูดหายใจเข้าลดลงตอนหายใจออกถือว่าใช้ได้ และควรยืดกล้ามเนื้อ วันละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการคลายกล้ามเนื้อ และลดอาการบาดเจ็บขณะวิ่ง